นาทีที่ 28 กลายเป็นบอร์นมัธ ที่เป็นฝ่ายขึ้นนำ 1-0 จากฟิลลิป บิลลิ่ง ที่ได้บอลมาจากดังโก้ อูอัตตาร่า ที่คัตแบ็คจากสุดเส้นมาให้และยิงเข้าไป แม้จะมีการเช็ก VAR แต่ประตูก็ไม่ถูกยึดคืนสามประตูนี้เกิดขึ้นในครึ่งหลังทั้งหมดโดยเจ้าบ้านออกนำก่อนจาก ดาเนียล มัลดินี่ แต่ทีมเยือนตีเสมอได้จากจุดโทษของ โรเมลู ลูกากู ก่อน สเปเซีย ก็มาได้จุดโทษเช่นกันและ เอ็มบาล่า เอ็นโซล่า สังหารให้เจ้าถิ่นคว้าสามแต้ม โดยครึ่งแรก "งูใหญ่" มีโอกาสนำจากจุดโทษ ทว่า เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ ยิงไม่เข้า
"ผมไม่อยากถูกมองเป็นกำลังหลักหรือคนสำคัญที่นี่ ผมแค่ต้องการลงเล่นและสนุกกับเกมฟุตบอลของผม" เชซุส ให้สัมภาษณ์กับ สกายสปอร์ต
'ส่วน โธมัส มุลเลอร์ จะเสร็จสิ้นการฝึกซ้อมขั้นสุดท้ายตามปกติในวันนี้ ถ้าไม่มีอะไรที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เขาจะสามารถลงเล่นได้ในวันพรุ่งนี้' นาเกลส์มันน์ กล่าวทั้งนี้ คอนเต้ ยังคงต้องการวิงแบ็กขวารายใหม่ เพราะผลงานของนักเตะที่มีอยู่ยังไม่เข้าตา ทั้ง เอแมร์ซอน โรยาล และ แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้ ขณะที่ตัวใหม่ เจด สเปนซ์ ที่เพิ่งเซ็นมาเมื่อซัมเมอร์ที่แล้วก็ยังปรับตัวเข้ากับทีมไม่ได้
ทัพ “สิงโตคำราม” มีโปรแกรมลงทำศึกยูฟ่า เนชั่นส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ในช่วงฟีฟ่าเดย์ ปลายเดือนนี้ทั้งหมด 2 นัด โดยจะบุกไปเยือน ทีมชาติอิตาลี ในวันที่ 23 ก.ย. และเปิดเวมบลีย์ รับการมาเยือนของ เยอรมัน ในวันที่ 26 ก.ย. ซึ่งล่าสุด แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือสิงโตคำราม ได้ประกาศรายชื่อ 28 ขุนพลที่จะทำศึกทั้ง 2 นัดออกมาเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งก็โดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เมื่อ เซาธ์เกต ตัดสินใจเรียกนักเตะฟอร์มไม่ดีเข้ามาสู่ทีมหลายคน รวมถึงเมินเรียกนักเตะที่กำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมมาติดทีม"มันสำคัญมากที่จะชนะในเกมนี้และให้กำลังใจกับตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคู่แข่งของเรามีเวลาทั้งสัปดาห์ในการเตรียมพร้อมสำหรับรอบชิงชนะเลิศ"