เอฟเอ คัพ และลีก คัพ ระหว่าง 5 ซีซั่นในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ภายใต้การคุมทัพของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันอิสมาแอล เบนนาเซอร์ ทำประตูให้ เอซี มิลาน ขึ้นนำ 1-0 ช่วงนาที 17 ก่อน เตโอ แอร์กน็องเดซ จะสังหารจุดโทษให้ทีมปีศาจแดง-ดำนำห่าง 2-0 ช่วงนาที 29 และเป็นอีกครั้งที่ ลาซิโอ แสดงให้เห็นถึงความเฉื่อยชาและไร้สมาธิจนยิงไม่ตรงกรอบแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งสร้างความกังวลใจต่อ ซาร์รี่ ไม่น้อย
ครึ่งหลัง ฟอเรสต์ ดูเล่นได้คึกคักขึ้นอย่างชัดเจน นาทีที่ 47 เรโม ฟรอยเลอร์ จ่ายให้ ไตโว อโวนิยี่ ยิงด้วยซ้ายในเขตโทษ แต่ก็ไม่ได้สร้างความลำบากให้ เกปา อะไรมากมาย
แต่สิ่งต่างๆเริ่มเปลี่ยนไปในช่วงเดือนที่แล้ว เมื่อ ปาโบล ตอร์เร่ ตระหนักว่าเขาไม่มีโอกาสลงเล่นมากพอกับทีมชุดใหญ่ และในที่สุดเขาก็ลงประเดิมสนามกับ บาร์เซโลน่า แอธเลติก ก่อนจะได้โอกาสจาก ชาบี ส่งลงเล่นเกมแชมเปี้ยนส์ลีกกับ วิคตอเรีย พิลเซ่น พร้อมทำประตูแรกของตนเองก่อนถูกถอดออกจากสนามเนื่องจากบาดเจ็บซึ่งผลปรากฎว่า 2 ด่านแรก ลูกฟุตบอลทั้ง 2 แบรนด์แสดงประสิทธิภาพไม่ต่างกัน แต่พอขึ้นชาลเลนจ์ที่ 3 ลูกฟุตบอล "Louis Vuitton" เริ่มมีรอยปริทำให้เริ่มควบคุมทิศทางไม่ได้ ก่อนที่ในท้ายที่สุดเมื่อทดสอบครบทั้ง 3 ด่าน ลูกฟุตบอลแบรนด์ Mitre จะเอาชนะไปด้วยสกอร์5-4 ทำให้เหล่ายูทูบเบอร์ต้องจำใจเผาลูกฟุตบอลของ Louis Vuitton ทิ้งตามที่ตกลงกันไว้ตอนต้น
น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ทีมน้องใหม่พรีเมียร์ลีก แสดงความสนใจในตัว ลินการ์ด และลงมือยื่นข้อเสนอไปให้ตัวแทนของนักเตะพิจารณาแล้ว ตอนนี้ยังคงอยู่ในขั้นตอนของการเจรจานาทีสุดท้ายของครึ่งแรก บาเยิร์น นำห่าง 4-1 ซาดิโอ มาเน่ หลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนเปิดยัดไปหน้าประตู บอลแฉลบกองหลังเอาก์สบวร์กเด้งลอยโด่ง ลีรอย ซาเน่ วิ่งมาโหม่งจ่อๆ ไม่พลาด ทำให้จบ 45 นาทีแรกที่สกอร์นี้