เริ่มเกมมา เชลซี บุกได้วูบวาบกว่า และนาทีที่ 15 ก็มาออกนำ 1-0 เมื่อ เมสัน เมาท์ ทะลุขึ้นมาทางกราบขวาแล้วเปิดเรียดเข้ากลางให้ โรเมลู ลูกากู สอดมาวางเท้าแปด้วยซ้ายระยะเผาขนตุงตาข่ายไม่เหลือทั้งนี้ มีสถิติไม่เป็นใจให้ โรนัลโด้ คือเจ้าตัวไม่เคยยิงประตูในรอบน็อกเอาต์ฟุตบอลโลกได้เลยตลอด 4 ครั้งก่อนหน้านี้ที่ลงเล่น โดย 8 ประตูที่ทำได้ทั้งหมดมาจากการยิงในรอบแบ่งกลุ่ม
เจ้าบ้านมีโอกาสยิงไม่ต่ำกว่า 4 ครั้ง แต่กลับเป็น นาโปลี ที่ยังไม่มีโอกาสเลยแต่มาได้จุดโทษในนาที 14 ดรีส เมอร์เทนส์ หลุดไปแตะหลบ ฮวน มุสโซ่ แล้วโดนรวบล้ม ผู้ตัดสินเช็กจากวีเออาร์ถึงให้จุดโทษ ลอเรนโซ่ อินซินเย่ สังหารเข้าไปเป็น 1-0
นาทีที่ 74 กองเชียร์ เรือใบ ต้องเฮเก้อ เมื่อ เควิน เดอ บรอยน์ บรรจงเปิดจากกราบซ้ายโค้งไปเข้าหัว เออร์ลิง ฮาแลนด์ โหม่งตุงตาข่ายไปแล้ว แต่จากการเช็กวีเออาร์ปรากฎว่าหัวหอกนอร์เวย์ล้ำหน้าเลยโดนริบสกอร์คืน"คุณเห็นได้จากการซ้อมที่เขาสร้างความปั่นป่วนได้และมีช่วงเวลาที่พิเศษที่เขาทำได้ ดังนั้นเขาอยู่ในจุดที่ดีแล้วตอนนี้"
"โค้ชด่วน" ยอมรับผลแข่งสาวไทย เตรียมเข้าฟื้นฟูร่างกาย ก่อนลุยสัปดาห์ที่ 3"คล็อปป์" ยืนยันลิเวอร์พูลจัดเต็มแดงเดือดไทย