อนุสาวรีย์แห่งนี้ ได้รับการเห็นชอบจาก ครอบครัวศรีวัฒนประภา ในการสร้างเพื่อให้เป็นอนุสรณ์สถานที่ระลึกถึงเกียรติประวัติของคุณวิชัยให้กับคนรุ่นหลัง ซึ่งได้สร้างความสำเร็จอันสูงสุดเท่าที่เคยมีมาในโลกแห่งกีฬาให้กับทีมเลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเป็นสถานที่ที่คุณวิชัยรักและได้นำพาความสุขมาสู่ครอบครัวเลสเตอร์ ซิตี้ ทุกคนสำหรับ วิชัย ศรีวัฒนประภา ได้ดำรงตำแหน่งประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ระหว่างปี พ.ศ. 2553 2561 ตลอดระยะเวลา 8 ปี ในฐานะประธานสโมสร คุณวิชัยได้สร้างตำนานให้กับวงการฟุตบอล โดยนำทีมเลสเตอร์ ซิตี้ จากลีกระดับ 2 ขึ้นสู่ลีกสูงสุด และนำนักเตะคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก ได้สำเร็จในฤดูกาล 2015/16 หรือปี พ.ศ. 2559นอกจากเรื่องการบริหารทีมฟุตบอลแล้ว คุณวิชัยยังได้บริจาคทรัพย์สินส่วนตัวให้กับองค์กรการกุศลต่างๆในเมืองเลสเตอร์ ด้วยเจตนารมณ์นี้ได้นำมาสู่การก่อตั้งมูลนิธิคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ขึ้นในเวลาต่อมาสิ่งเหล่านี้ได้ถูกนำมาเป็นแรงบันดาลใจ และแนวคิดในการออกแบบอนุสาวรีย์แห่งนี้ โดยผสมผสานความเป็นไทย เข้ากับวัสดุพื้นบ้านของประเทศอังกฤษ ที่ได้รับการคัดสรรอย่างประณีต เพื่อแสดงถึงความอบอุ่นและทรงพลังของผู้ซึ่งเป็นที่รักของชาวเมืองเลสเตอร์ โดยอนุสาวรีย์นี้ได้ตั้งไว้ที่บริเวณด้านหน้าสนาม คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยมตัวอนุสาวรีย์ทำจากโลหะทองสัมฤทธิ์ ตั้งอยู่บนฐานรองรับที่ทำจากหินอ่อนสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสีประจำของเลสเตอร์ ซิตี้ บริเวณพื้นรอบๆปูด้วยหินทรายพีคมัวร์ จากเหมืองหินในเขต แสตนตัน มัวร์ และตกแต่งรายละเอียดด้วยวัสดุที่ทำจากทองเหลือง บริเวณรอบๆ ตกแต่งด้วยกระถางต้นไม้สีเขียวสี่ต้นที่ทำมาจากหินโบราณของเมืองวอห์นคลิฟฟ์ และเก้าอี้ที่ทำจากไม้ซุงของต้นโอ๊คในท้องถิ่นของประเทศอังกฤษ จัดวางเป็นรูปทรงแปดเหลี่ยม ซึ่งเลขแปดเป็นเลขประจำตัวคุณวิชัยและตรงกับหลักธรรมคำสอนในทางพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นสิ่งที่คุณวิชัยยึดถือปฏิบัติมาโดยตลอด อนุสาวรีย์รูปปั้นคุณวิชัย เป็นรูปปั้นที่งดงามไปด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่นของคุณวิชัย ส่วนฐานของอนุสาวรีย์ ได้จารึกถ้อยคำด้วยโลหะทองเหลือง แทนคำพูดและความรู้สึกจากใจของครอบครัวเลสเตอร์ ซิตี้ ด้วยคำว่า “Always in our hearts”ด้วยวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นของคุณวิชัย ภายใต้การบริหารงานของ คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา สิ่งเหล่านี้กลายเป็นหัวใจหลักและจิตวิญญาณของสโมสร ที่จะนำพาให้สโมสรพัฒนาก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืนด้านผลการแข่งขันปรากฏว่า แชมป์ประจำสเตจที่ 5 เป็นของ จ่าสิบตรีณัฐพล จำชาติ นักกีฬาทีมชาติไทย ซึ่งสปรินต์เข้าเส้นชัยเป็นคนแรก เป็นการคว้าแชมป์สมความตั้งใจของทีมนักปั่นไทย พร้อมคว้ารางวัลนักปั่นอาเซียนยอดเยี่ยม ประจำสเตจที่ 5 อีกด้วยอันดับที่ 2 โมฮัมเหม็ด ชาห์รูล แม็ต อามีน จากทีมตรังกานู โพลีกอน ของมาเลเซีย, อันดับที่ 3 อลัน บานาสแซ็ก จากทีมเอชอาร์อี มาโซว์เซ ของโปแลนด์ ด้วยเวลา 3.29.34 ชั่วโมงเท่ากัน พร้อมกันนี้ อลัน บานาสแซ็ก ยังคว้าตำแหน่งผู้นำเวลารวม ด้วยเวลา 17.47.29 ชั่วโมง ได้เสื้อเหลืองไปครอง รวมทั้งคว้าตำแหน่งนักกีฬาบู๊ยอดเยี่ยมประจำสเตจที่ 5 ไปครองอีกรางวัล
ส่วนนิทรรศการศิลปะ “NFT ArtSurf Festival 2022” จะจัดควบคู่ไปด้วย ระหว่างวันที่ 23 เมษายน -1 พฤษภาคม 2565 ซึ่งเปิดโอกาสให้ศิลปินไทย NFT เข้ามาแสดงผลงานและจัดกิจกรรม NFT Workshop โดยมีศิลปินที่ตอบรับเข้าร่วมนิทรรศการครั้งแรกนี้กว่า 100 คน ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดทั้ง 2 กิจกรรมได้ที่ Facebook page: Bravo Skate Park และ NFTGM
อนึ่ง ศึกเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ เอ็กซ์ตรีม จะประกอบด้วย 1 สเก็ตบอร์ด, 2 อินไลน์สปีดสเก็ต, 3 เซิร์ฟสเก็ต และ 4 สปีดเซิร์ฟสเก็ต ซึ่งจะเป็นครั้งแรกของไทย ที่มีทีมสเกตบอร์ดหญิง เตรียมพร้อมไปแข่งขันกีฬาระดับโลกทั้งเอเชี่ยนเกมส์ 2022 ที่จีน และโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ฝรั่งเศส อีกด้วยโดย 3 เหรียญทองของทีมว่ายน้ำพาราไทย ได้มาจากผลงานของบุญฤทธิ์ พยุงสกุล คนเดียว 2 เหรียญทองจากประเภทเดี่ยวผสม 200 เมตร ทำเวลา 3.47.08 นาที และประเภทผีเสื้อ 50 เมตรชาย ทำสถิติ 39.85 วินาที และอีก 1 เหรียญทองได้จาก กวีวัธน์ สิทธิชัยพรนิธิ ประเภทฟรีสไตล์ 100 เมตรชาย ทำเวลา 1.15.70 นาที
2 ผู้เล่นระดับตำนานของเกม Dota 2 เตรียมจับมือทำกิจกรรมไลฟ์สตรีมร่วมกัน เพื่อระดมทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยสงครามในประเทศยูเครนสำหรับทีม XERXIA ในขณะนี้พวกเขาอยู่ที่ประเทศไอซ์แลนด์ เพื่อเตรียมลงทำการแข่งขันในรายการ VCT 2022: Stage 1 Masters Reykjavík ซึ่ง XERXIA ถูกจับให้อยู่ในกลุ่มบี ร่วมกับ OpTic Gaming, KRÜ Esports และ Team Liquid โดยจะประเดิมสนามด้วยการพบกับ OpTic Gaming เป็นทีมแรก