สิ่งที่อยากจะเตือนทีมชาติไทยคือต้องเล่นแบบใจเย็น อย่ามั่นใจเกินไป เพราะทั้งสองทีมเป็นทีมชั้นนำในเอเชียใต้ และด้วยการที่อันดับ 2 ของกลุ่มเข้ารอบได้ ทุกทีมจะสู้กันเต็มที่แน่นอนการแบ่งแต่ละโถเป็นดังนี้ ;โถ 1 : กาตาร์, บราซิล, เบลเยียม, ฝรั่งเศส, อาร์เจนตินา, อังกฤษ, สเปน, โปรตุเกสโถ 2 : เม็กซิโก, เนเธอร์แลนด์, เดนมาร์ก, เยอรมนี, อุรุกวัย, สวิตเซอร์แลนด์, สหรัฐอเมริกา, โครเอเชียโถ 3 : เซเนกัล, อิหร่าน, ญี่ปุ่น, โมร็อกโก, เซอร์เบีย, โปแลนด์, เกาหลีใต้, ตูนิเซียโถ 4 : แคเมอรูน, แคนาดา, เอกวาดอร์, ซาอุดีอาระเบีย, กานา, ทีมชนะเพลย์ออฟยุโรป (เวลส์/สกอตแลนด์/ยูเครน), ทีมชนะเพลย์ออฟเอเชีย-อเมริกาใต้ (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์/ออสเตรเลีย/เปรู), ทีมชนะเพลย์ออฟคอนคาเคฟ-โอเชียเนีย (คอสตาริกา/นิวซีแลนด์)โดยผลการจับสลากปรากฏว่า “กระทิงดุ”สเปน อดีตแชมป์โลก 1 สมัย ต้องมาอยู่กลุ่มอีร่วมกับ “อินทรีเหล็ก”เยอรมนี อดีตแชมป์โลก 4 สมัย, “ซามูไร”ญี่ปุ่น และทีมชนะเพลย์ออฟคอนคาเคฟ-โอเชียเนียขณะที่เจ้าภาพกาตาร์ซึ่งถูกจับไปอยู่กลุ่มเอ งานหนักใช่ย่อยต้องเจอ “กังหันสีส้ม”เนเธอร์แลนด์, เซเนกัล และเอกวาดอร์ด้านแชมป์เก่าปี 2018 “ตราไก่”ฝรั่งเศส งานค่อนข้างเบา ได้อยู่กลุ่มดีร่วมกับ “โคนม”เดนมาร์ก, ตูนิเซีย และทีมชนะเพลย์ออฟเอเชีย-อเมริกาใต้
พรีเมียร์ลีก แถลงอนุมัติใช้กฎใหม่ในการแข่งขันฤดูกาลหน้า โดยแต่ละทีมสามารถเปลี่ยนตัวผู้เล่นฝั่งละ 5 คนต่อเกม รวมถึงปรับเวลาตลาดซื้อขายด้วย
นอกจากนี้ โอเซล มีเดีย เอฟซี จะใช้สตาฟโค้ช “อินทรีแดง” ทั้งชุด นำโดย “โค้ชโก้” ประนุพงษ์ ปิ่นสุวรรณ หัวหน้าผู้ฝึกสอน และทีมงานอย่าง คฑาวุฒิ บุญอำพร, สถาพร ใจผ่อง, สิทธิศักดิ์ ฆังมณี, ธีระชัย มาสา และ ทรงวุธ ขำฟุ้งผลการดวลจุดโทษยังเป็นเซเนกัลคมกว่าเช่นเคย แม้จะพลาด 2 คน (คาลิดู คูลิบาลี, ซาลิอู ซิสส์) แต่อียิปต์กลับพลาดถึง 3 คน (โมฮาเหม็ด ซาลาห์, อาห์เหม็ด “ซิโซ” ซาเยด, มอสตาฟา โมฮาเหม็ด) โดยคนยิงปิดท้ายเป็น ซาดิโอ มาเน ส่งเซเนกัลชนะ 3-1ทำให้เซเนกัลผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นหนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ ต่อจากเมื่อปี 2002 และ 2018 และเป็นทีมที่ 22 ของฟุตบอลโลกหนนี้ด้วย
วัน แชมเปียนชิพ จัดงานแถลงข่าวก่อนการแข่งขันศึก ONE X ฉลองครบรอบ 10 ปี ของ วัน แชมเปียนชิพ องค์กรศิลปะป้องกันตัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งเอเชีย ซึ่งเตรียมจะเปิดสังเวียนสิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดียม ประเทศสิงคโปร์ ดวลกันในวันเสาร์ที่ 26 มีนาคม 2565 งานแถลงข่าวจัดอย่างยิ่งใหญ่ที่ สิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดียม ท่ามกลางกองทัพนักข่าวและเหล่านักกีฬาเข้าร่วมงานคับคั่ง กับศึกแห่งศิลปะการต่อสู้แห่งประวัติศาสตร์ที่จะจัดขึ้นสุดสัปดาห์นี้ โดยมีทัพนักกีฬาไทย ตบเท้าประกาศความพร้อมและเปิดใจกับสื่อจากทั่วโลกอย่างยิ่งใหญ่จากผลดังกล่าวทำให้ทัพ ฝอยทอง ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับ นอร์ทมาซิโดเนีย ที่ทำช็อกด้วยการบุกเฉือน อิตาลี ถึงถิ่น 1-0