วันที่ 10 พฤษภาคม 2565 ทีมชาติไทย พบ สิงคโปร์วันที่ 13 พฤษภาคม 2565 ทีมชาติไทย พบ เมียนมาวันที่ 15 พฤษภาคม 2565 ลาว พบ ทีมชาติไทยนาทีที่ 40 ปาณัสม์ กิตติภานุวงศ์ จ่ายให้ กฤษดา วงศ์แก้ว ดึงจังหวะก่อนชิพเข้าไปให้สกอร์ห่างเป็น 13-0 และเป็นแฮตทริกของกัปตันช้าง ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติมจบเกม ไทย เอาชนะ บรูไน ไป 13-0ส่วนผลอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน มาเลเซีย ชนะ กัมพูชา 7-6
และประเภทหญิงเดี่ยว รอบแรก เบญญาภา เอี่ยมสอาด กับ นันทกานต์ เอี่ยมสอาด มือ 8 รายการ ชนะ วิเวียน ฮู กับ ลิ้ม เฉียว เซียน จาก มาเลเซีย 2-0 เกม 21-10, 21-19 เข้ารอบ 2 พบ คิม มินจี กับ ซึง ยอน เซือง จาก เกาหลีใต้
โดยในสัปดาห์หน้า แมนฯ ซิตี้ จะมีโปรแกรมสำคัญด้วยการเปิดบ้านพบกับ ลิเวอร์พูล ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นแมตช์ที่จะชี้ชะตาแชมป์ลีกในฤดูกาลนี้หลังเกมดังกล่าว เป๊ป กล่าวถึงเป้าหมายในเกมกับ หงส์แดง ว่า เกมพรีเมียร์ลีกนัดต่อไปเราจะเล่นกับ ลิเวอร์พูล ดังนั้นเรารู้ว่าพวกเขาจะชนะเกือบทุกเกม หวังว่าจะไม่ใช่เกมต่อไป แต่เราจะพยายามทำแบบเดียวกัน ต่อไปคือ แอตเลติโก มาดริด ตามด้วย ลิเวอร์พูลภายในที่ประชุม สมาคมได้นำเสนอโปรแกรมการเรียกเก็บตัวฝึกซ้อม หลังจบฤดูกาล โดยเมื่อหารือกับมาโน โพลกิง หัวหน้าผู้ฝึกสอนและทีมงาน ลงความเห็นว่านักฟุตบอลชุดแรกจะเริ่มเรียกเข้าแคมป์เก็บตัวตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค. และกลุ่มนักฟุตบอลที่มีภารกิจในรายการ ช้าง เอฟเอ คัพ จะตามมาสมทบในวันที่ 23 พ.ค.นอกจากนี้ ทีมชาติไทยชุดใหญ่ ยังได้วางแผนการแข่งขันอุ่นเครื่อง วันที่ 27 และ 31 พ.ค. ก่อนเดินทางออกจากประเทศไทย และวันที่ 3 มิ.ย. และจะมีแข่งขันอีก 1 นัดที่จะแข่งแบบปิดที่ประเทศอุซเบกิสถาน ก่อนเข้าสู่ช่วงการแข่งขันวันที่ 8 มิ.ย. โดยประเทศที่จะลงแข่งขัน สมาคมจะมีการแจ้งให้สื่อมวลชนทราบต่อไปหากมีการลงนามข้อตกลงสมบูรณ์แล้วนอกจากนี้ ทางบริษัท ไทยลีก จำกัด ได้นำเสนอวันเปิดฤดูกาลไทยลีกที่จะเริ่มในช่วงต้นเดือนส.ค. และหยุดพักเลกในเดือนธ.ค. ซึ่งจะมีสองรายการสำคัญมาเกี่ยวข้องในเลกแรกคือเอเชียนเกมส์ (ก.ย.) และเอเอเอฟ ซูซูกิคัพ (ธ.ค.) ส่วนรายการเอเชียนเกมส์ ทีมงานผู้ฝึกสอนได้มีข้อสรุปกับทางบริษัท ไทยลีก จำกัด วางเวลาเก็บตัวเตรียมทีมก่อนเข้าช่วงแข่งขันแมตช์แรกเรียบร้อยแล้ว
แต่เกมในโมโต 3 กลับกลายเป็นพลิกผันเมื่อทั้งคู่ออกสตาร์ตไม่ดี เป็น มุสตาน มิน นักแข่งกัมพูชาออกนำเข้าที่ 1 ตามด้วย อคิน นิพัทธเจริญ และ ณัฐกร ภูภัคดี โมโตสุดท้ายจึงเป็นการลุ้นแชมป์กันของ นันทวัฒน์, มุสตาน มิน และ อานนท์ ที่ใครเข้าที่ 1 จะคว้าแชมป์ทันทีผลปรากฏว่า นันทวัฒน์ ออกนำเข้าที่ 1 แบบม้วนเดียวจบ ตามด้วย อานนท์ และ อดิน รวมคะแนน นันท์วัฒน์ คว้าแชมป์ 211 คะแนน อานนท์ รองแชมป์ 199 คะแนน อันดับ 3 อคิน 190 คะแนนเข้าสู่โมโต 3 ทั้งคู่พยายามชิงจังหวะการออกสตาร์ตเพื่อความได้เปรียบในการเป็นผู้นำ เป็น ธีระ ที่ทำได้ดีกว่าออกจากวงนอกขึ้นนำ ทำให้ เพิ่มพล ต้องไล่เหนื่อยแต่ก็ไม่ทัน ธีระ เข้าที่ 1 ตามด้วย เพิ่มพล และ เลิศพงศ์ ขุนเจ๋ง ส่งผลให้ ธีระ มีความได้เปรียบอยู่ 7 คะแนน ก่อนไปชิงดำกันในโมโตสุดท้ายเริ่มโมโตสุดท้าย เพิ่มพล ออกตัวได้อย่างเฉียบขาดขึ้นนำโดยมี ธีระ ไล่บี้อยู่ตลอดการแข่งขัน 10 รอบสนาม แต่ เพิ่มพล ยังควบเรือคู่ใจเข้าที่ 1 คว้าแชมป์สนามนี้ไปครองแม้ว่าจะมี 226 คะแนนเท่ากับ ธีระ ที่เข้าที่ 2 จากกติกาผลงานโมโตสุดท้ายของ เพิ่มพล ดีกว่า อันดับ 3 เป็น เลิศพงศ์ ขุนเจ๋ง เข้าที่ 3 ทั้ง 4 โมโต 152 คะแนนด้าน รุ่นเรือยืนปรับแต่งเครื่องยนต์ได้ (Pro-Am Ski Modified) ที่ผ่านวันแรก อานนท์ หงษ์กลาง เป็นผู้นำมี 113 คะแนน และนันทวัฒน์ สิงห์อุไร ตามลุ้นแชมป์ที่ 108 คะแนน