เริ่มเกมในครึ่งหลังเจ้าบ้านลิเวอร์พูลเปิดเกมบุกเข้าใส่ต่อเนื่อง โดยในนาทีที่ 61 เป็นลิเวอร์พูลจ่ายบอลทะลุจ่ายแดนหลังส่งต่อให้ซาลาห์และจ่ายบอลให้กับโรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ยิงตีเสมอ 1-1เจ้าบ้านจำเป็นต้องเปลี่ยนตัวในนาทีที่ 78 เนื่องจาก อมาดู โอนาน่า มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนจนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ เจมส์ การ์เนอร์ ถูกส่งลงสนามมาแทน
"เราคงจะบ่นกันว่าในยุโรปเรามีเกมที่ต้องเล่นมากเกินไป แต่ไม่เคยมีคำพูดอะไรเลย คืนนี้ มาเน่ โดนเตะแล้วเตะอีก แต่มันไม่เคยมีออกมาจากปากเขาแม้แต่คำเดียว"
พอล ดีกรี ออล-สตาร์ 12 สมัย ทำเฉลี่ย 13.9 คะแนน,นาทีที่ 16 ไลป์ซิก พลาดตีเสมอเมื่อ โมฮาเหม็ด ซีมาก็อง ตัดบอลเข้าทางปืน คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู หลุดไปยิงไม่พลาดแต่ไม่ได้เพราะล้ำหน้า
คล็อปป์ กล่าวหลังเกมว่า "ความเข้มข้นจริงจังในการเล่นที่ เบรนท์ฟอร์ด มีนั้นโดดเด่นมากและผมเคารพในจุดนี้มากๆ เราเล่นที่นี่เมื่อปีที่แล้วและเสมอ 3-3 มันเป็นเกมที่ประหลาด ส่วนปีนี้แพ้ 1-3 ก็คล้ายๆ กัน"นาที 74 แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสเมื่อ บรูโน่ แฟร์นันด์ส หยอดบอลจากซ้ายเข้าเขตโทษ กองหลังโบรทตันโหม่งเคลียร์มาหน้าเขตโทษ กาเซมีโร่ สวนตูมกลับไปทันที แต่บอลข้ามคาน