สำหรับ “บิว” ภูริพล บุญสอน ลมกรดหนุ่มดาวรุ่งวัย 16 ปี จากสมุทรปราการ พังสถิติวิ่ง 200 เมตร ชาย ในการแข่งขันซีเกมส์ ลงได้ถึง 2 ครั้ง ในรายการเดียวโดยในรอบคัดเลือก วิ่งทำเวลา 20.41 วินาที ทำลายสถิติซีเกมส์เดิมของรุ่นพี่ เหรียญชัย สีหะวงษ์ ซึ่งเคยทำไว้ด้วยเวลา 20.69 วินาที ที่ประเทศบรูไน ปี 2542 หรือเมื่อ 23 ปีที่แล้ว ขณะที่ในรอบชิงชนะเลิศ ก็ทำลายสถิติของตัวเองลงได้อีกครั้ง หลังจากวิ่งเข้าเส้นชัยด้วยเวลา 20.37 วินาที คว้าเหรียญทองไปครองได้อย่างยอดเยี่ยมนอกจากนี้ยังช่วยทีมไต้ฝุ่นไทย ทำลายสถิติในประเภทผลัด 4 100 เมตร เข้าเส้นชัยด้วยเวลา 38.58 วินาที ทำลายสถิติซีเกมส์ ที่รุ่นพี่ทีมชาติไทย ทำไว้ด้วยเวลา 39.27 วินาที เมื่อปี 2019 และดีกว่าสถิติประเทศไทยที่ทำไว้ 38.70 วินาที ด้วยสรุปผลงานทัพตะกร้อทีมชาติไทยทั้งชายและหญิง ส่งร่วมแข่งขัน 6 ประเภท คว้าเหรียญทองได้ทั้งหมด 6 เหรียญทอง ประกอบด้วย ทีมชุดชาย-หญิง, ทีมเดี่ยวชาย-หญิง และ ทีม 4 คนชาย-หญิง
สำหรับทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มบี และต้องมาพบกับ อินโดนีเซีย ในฐานะรองแชมป์จากกลุ่มเอ โดยจะลงทำการแข่งขันในวันนี้ (19 พ.ค.) ที่สนามเธียน ตรวง สเตเดียม เวลา 16.00 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง 5
“จะเห็นได้ชัดเจนว่า ประเภทกีฬาสากลนักกีฬาจากประเทศไทยทำผลงานได้ดี เช่น กรีฑา มีนักกีฬารุ่นใหม่ๆ สามารถทำลายสถิติหลายรายการ ส่วนกีฬาเทเบิลเทนนิส ทำผลงานได้มากกว่าเป้าหมาย กีฬาบาสเกตบอลได้เหรียญทองที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่ง กีฬาว่ายน้ำครั้งนี้มีหลายเหรียญทองติดไม้ติดมือกลับมา กีฬายิมนาสติกสามารถแบ่งเหรียญจากชาติอาเซียนมาได้ แบดมินตันยังทำผลงานได้ตามเป้าหมาย”นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ กล่าวว่า ในการเดินทางมาร่วมในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนามครั้งนี้ ตนได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้มาให้กำลังใจแก่น้องๆ นักกีฬาทีมชาติไทยทุกคนในการทำศึกซีเกมส์เพื่อประเทศชาติ รวมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ของไทยที่มีส่วนเกี่ยวข้องในกีฬาซีเกมส์ครั้งนี้ทุกคนด้วย นอกจากนี้ยังได้มาทำการประชุมหารือกับทางรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยวของประเทศเวียดนามในเรื่องของแผนการพัฒนาของชาติสมาชิกอาเซียนที่จะร่วมกันผลักดันให้ความเป็นเลิศของนักกีฬาในชาติอาเซียนโตขึ้นไปสู่ระดับที่ยอดเยี่ยมในกีฬาเอเชียนเกมส์ เวิลด์เกมส์และโอลิมปิกเกมส์ และตนก็ได้แสดงความยินดีที่เวียดนามสามารถจัดการแข่งขันได้แม้จะต้องพบกับสถานการณ์ที่ยากลำบากในช่วงการระบาดของไวรัส รวมทั้งอยากจะมาเชิญชวนประเทศเขาทำในเรื่องของการท่องเที่ยว หมายถึงว่าถ้ามีนักท่องเที่ยวจากทวีปอื่นมาเที่ยวที่เวียดนามแล้วไปเที่ยวประเทศไทย หรือเริ่มต้นที่ไทยแล้วไปเที่ยวต่อที่เวียดนาม เราก็จะเป็น one destination of city ร่วมกันได้ และที่สำคัญคืออยากจะมาเชิญให้ประเทศเวียดนามไปเข้าร่วมประชุมเอเปกรัฐมนตรีท่องเที่ยว ซึ่งปีนี้เราเป็นเจ้าภาพในเดือนพฤศจิกายน ส่วนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะประชุม 21 เขตเซอร์กิตของเอเปกในเดือนสิงหาคมข่าวแนะนำ
“อีกเป้าหมายในอนาคต ที่อยากจะทำ จริงๆอยากจะเปิดร้านไก่ทอดสไตล์เกาหลี เนื่องจากส่วนตัวชอบกินมากและมีคุณพ่อเป็นคนเกาหลีใต้ด้วย”บิ๊กก้อง ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เผยว่า ผลงานในซีเกมส์ ครั้งนี้ของนักกีฬาไทยถือว่าน่าพอใจ เราอย่าไปดูว่าเหรียญรวมเราชนะหรือแพ้ เพราะต้องยอมรับว่า เวียดนาม เจ้าภาพคงชนะอยู่แล้ว แต่เราดูกีฬาที่เป็นกีฬาสากลที่เราเน้น จะสังเกตเห็นว่าผลงานดีขึ้นเกือบทุกสมาคม เหรียญใหญ่ๆเราเข้าชิงได้หมด ยกตัวอย่าง กรีฑา ว่ายน้ำ ที่เป็นกีฬาหลักในโอลิมปิก เราพัฒนาอย่างเห็นได้ชัด แล้วก็อย่าไปมองว่าต้องได้เหรียญทองอย่างเดียว อยากให้ดูที่เหรียญเงิน หรือทองแดงด้วย ซึ่งศักยภาพเราสามารถต่อยอดไป เอเชียนเกมส์ หรือ โอลิมปิกเกมส์ ได้ในหลายชนิดกีฬา